สกุลเงินเอเชียชะลอตัวลงจากที่พุ่งแข็งค่าในช่วงเช้า หลังทางการจีนเปิดเผยว่ายังไม่มีแผนที่จะหยิบยกประเด็นการใช้สกุลเงินอื่นมาเป็นกุลเงินหลักในระบบสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกแทนสกุลเงินดอลลาร์เพื่อเข้าหารือในที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศจี-8 ในสัปดาห์หน้า
โดยสกุลเงินริงกิตและเปโซของฟิลิปปินส์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำกำลังคลี่คลายลง ซึ่งช่วยกระตุ้นสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ที่ซื้อขายกันในตลาดปริวรรตเงินตรา หลังจากที่นายเหอ เหยาเฟย รมช.คลังจีนแสดงความหวังว่าเงินดอลลาร์จะยังเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพ ขณะที่เงินดอลลาร์ไต้หวันและวอนของเกาหลีใต้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียแข็งค่าขึ้น 1% แตะที่ 10,130 ต่อดอลลาร์ก่อนจะเคลื่อนไหวแตะระดับ 10,190 ต่อดอลลาร์ ณ เวลา 11:14 น.ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนเงินริงกิตและเงินเปโซแข็งค่าขึ้น 0.1%
ด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.2% แตะที่ 1.4109 ยูโร/ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวที่ 96.61 เยน/ดอลลาร์ จากระดับต่ำของวันนี้ที่ 96.38 เยน/ดอลลาร์ หลังสำนักงานจัดการอุปทานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคโรงงานปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แตะระดับ 44.8 จุดในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์จากซีไอเอ็มบี อินเวสเมนท์ แบงก์ ในกัวลาลัมเปอร์แสดงความเห็นว่า ตลาดเคลื่อนไหวอย่างคึกคักท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งถูกใช้เป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินต่างประเทศมีบทบาทลดลง
ด้านเดวิด โคเฮน นักวิเคราะห์จากแอ๊คชั่น อีโคโนมิกส์ ในสิงคโปร์กล่าวว่า "นักลงทุนต้องการถือครองสกุลเงินในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มมีความแข็งแกร่ง และจะทำให้ผู้ส่งออกอย่างไต้หวันและเกาหลีได้รับอานิสงส์จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว"