อินเดียอาจเพิ่มเป้าหมายการขายพันธบัตรขึ้น 10% ในการประกาศตัวเลขงบประมาณประจำปีสัปดาห์หน้า เพื่อระดมทุนชดเชยยอดขาดดุลการค้าที่ขยายตัวสูงขึ้น อันเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์และนักลงทุนที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า อัตราการกู้ยืมเงินของอินเดียในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 พ.ค.อาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4 ล้านล้านรูปี (8.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ที่ 3.62 ล้านล้านรูปี ขณะที่รัฐมนตรีคลังซึ่งจะประกาศตัวเลขงบประมาณในวันที่ 6 ก.ค.นี้ อาจเปิดเผยรายได้รัฐบาลที่ลดลงท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำครั้งหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2546
ด้านนายมานโมฮาน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดียที่ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา กำลังเพิ่มการใช้จ่ายในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและเร่งดำเนินโครงการขจัดความยากจนเพื่อหวังกระตุ้นการขยายตัวในประเทศ ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ คาดว่า ตัวเลขบัญชีงบประมาณของอินเดียอาจร่วงหนักสุดในรอบ 19 ปี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 6.5% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และความล้มเหลวในการควบคุมตัวเลขขาดดุลงบประมาณจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศตามมา
นักวิเคราะห์จาก ICICI Securities Primary Dealership Ltd ในมุมไบกล่าวว่า "รัฐบาลต้องกู้ยืมเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้จ่ายในช่วงที่รายได้ของรัฐบาลอยู่ในภาวะหดตัว
ธนาคารกลางอินเดียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว 6% ในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2546 ขณะที่เมื่อวานนี้ กระทรวงคลังอินเดียกล่าวว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 7.75% จากปัจจัยภายนอกที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐดิ่งลงสู่ก้นเหวแล้วและมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ปัจจัยภายในนั้น อินเดียจะได้ประโยชน์จากการเก็บเกี่ยวพืชผลในช่วงฤดูมรสุม