นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า การลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 55 ภายใต้วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มกระจายเม็ดเงินได้ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.52 ซึ่งเป็นช่วงปลายปีงบประมาณ 2552
ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังเตรียมกู้เงินสำรองเพื่อใช้ในการลงทุน 3 หมื่นล้านบาทจากสถาบันการเงินในประเทศในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่การกู้เงิน ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาทนั้น เดิมคาดว่าจะกู้เงินเพื่อชดเชยเงินคงคลัง จำนวน 2 แสนล้านบาท อาจจะลดเหลือเพียง 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีวงเงินทีสามารถกู้ไปใช้จ่ายลงทุนได้เพิ่มขึ้น
สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณกลางปี 52 วงเงิน 1.167 แสนล้านบาทที่ยังมีความล่าช้า ที่ประชุม ครม.ได้หารือในเรื่องนี้ และจะพยายามเร่งรัดให้เบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมาย โดยยอมรับว่าโครงการที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ และถือเป็นปัญหาท้าทายของรัฐบาลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการที่ติดขัดเรื่องกฎระเบียบ หรือเป็นปัญหาของฝ่ายการเมืองตามกระทรวงต่างๆ เช่น โครงการลงทุนระบบราง ระบบชลประทาน ขณะที่การเบิกจ่ายงบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นมาตรการที่ช่วยเหลือประชาชนโดยตรง เช่น โครงการเช็คช่วยชาติ เรียนฟรี 15 ปี
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นยอมรับว่าไม่มีสูตรสำเร็จของการแก้ไขปัญหา ดังนั้น เพื่อให้มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะรัฐบาลมีโครงการลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 55 กระทรวงการคลังจึงได้มีการตั้งคณะทำงานติดตามการลงทุน เพื่อติดตามการลงทุนต่างๆ อย่างใกล้ชิด ในลักษณะโครงการต่อโครงการ