นักวิเคราะห์คาดศก.ยุโรปฟื้นตัวเต็มที่ปีหน้า หลังดิ่งหนักช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ข่าวต่างประเทศ Friday July 3, 2009 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า วิกฤตการเงินโลกได้ฉุดรั้งให้ประเทศสหภาพยุโรป (อียู) เผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จากผลกระทบของวิกฤตการเงิน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จนกว่าจะถึงปีหน้า แม้จะมีสัญญาณบ่งชี้ว่ายุโรปผ่านพ้นจุดต่ำสุดของวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปแล้วก็ตาม

"มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินเริ่มเห็นผลเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการนี้ในปี 2553" กรรมาธิการยุโรประบุ

ด้านยูโรสแตท สำนักงานสถิติของยุโรปเปิดเผยว่า เศรษฐกิจใน 27 ประเทศสมาชิกหดตัวลง 2.4% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจเขตยูโรโซนตกลง 2.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินร่วมกันเมื่อ 10 ปีก่อน

โฮเวิร์ด อาร์เชอร์ นักวิเคราะห์จากไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์กล่าวว่า การเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาสแรกเป็นข้อมูลที่เก่าไปแล้ว ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลและผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวที่ดีทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นผลสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในประเทศเขตยูโรโซนในเดือนมิ.ย. ที่ขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะค่อยๆสิ้นสุดลง

ฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า "กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้จะยังคงอ่อนแอ แต่การทรุดตัวทางเศรษฐกิจจะน้อยกว่าช่วงไตรมาสแรกของปีนี้"

ขณะเดียวกัน อียูเรียกร้องให้หาทางออกในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเริ่มดำเนินการควบรวมธุรกิจการเงิน โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ประเทศต่างๆทุ่มเงินไปมากกับแผนกระตุ้นตลาดเงินและเศรษฐกิจ ซึ่งทางอียูเกรงว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อยอดขาดดุลบัญชีงบประมาณ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ