นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้แก้ไขหลักเกณฑ์โครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางเพื่อเพิ่มมูลค่าและแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 28 ม.ค.52 ที่อนุมัติให้สนับสนุนสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่า จำนวน 2 แสนตันวงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยใช้วงเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการเกษตร วงเงิน 110,000 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และให้เร่งระบายผลผลิตยางพาราเพื่อปิดบัญชีโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี หรือภายในวันที่ 31ธ.ค.52
คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติมีมติให้ปรับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเกษตรกร วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อให้สหกรณ์ไม่เกิน 15 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อให้ชุมนุมสหกรณ์ฯไม่เกิน 45 ล้านบาท และปล่อยสินเชื่อให้วิสาหกิจชุมชน และสมาคมไม่เกิน 3 ล้านบาท และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีขอขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการต่อไปอีก 1 ปี จากเดิม 31 ธ.ค.52 เป็น 31 ธ.ค.53
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ผ่อนคลายเงื่อนไขการขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. โดยสถาบันจะต้องมีสต็อกยางมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อตามศักยภาพของสถาบัน โดยจะให้แต่ละสถาบันสามารถนำเงินมาหมุนเวียนเพื่อเก็บรวบรวมยางแผ่นดิบภายใน 1 เดือนในสต็อกของตนเอง เพื่อให้สถาบันนั้นๆสามารถแปรรูปต่อไป
ขณะเดียวกันยังให้องค์การสวนยางแห่งประเทศไทย(อสย.) เข้ามาเป็นหน่วยงานในการรวบรวมยางแผ่นดิบเพื่อส่งออกขายยังต่างประเทศได้ หากสถาบันนั้นๆไม่สามารถรวบรวมได้ทัน อย่างไรก็ตามโครงการนี้สถาบันจะต้องให้ ธ.ก.ส.เป็นผู้ตรวจสอบสต็อกก่อนเข้าร่วมโครงการ
นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาชุมนุมสหกรณ์การยางแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องมายังคณะกรรมการบริหารโครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางเพิ่มมูลค่าเพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ที่มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน เนื่องจากพบว่า โครงการที่รัฐบาลต้องการแทรกแซงตลาดยางพารา ตามที่ ครม.อนุมัติให้ใช้สินเชื่อจาก ธ.ก.ส. 8,000 ล้านบาทนั้น แต่เวลาผ่านมาแล้ว 5 เดือน โครงการยังไม่สามารถเดินหน้าแก้ปัญหาได้เต็มที่และไม่สามารถกู้เงินจาก ธ.ก.ส.ได้
"5 เดือนมีโครงการเสนอมายังปลัดกระทรวงฯแค่ 19 แห่ง จากสถาบันและวิสาหกิจชุมชน 37 แห่ง ขอกู้มา 100 ล้านบาท ได้รับอนุมัติจากกระทรวงเกษตรฯ แต่กลับยังไม่ได้รับเงินจาก ธ.ก.ส.มาบริหารโครงการเลยแม้แต่บาทเดียว แสดงว่าทำงานไม่จริงจัง " นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย มั่นใจว่า หลังมีการแก้ไขหลักเกณฑ์ต่างๆ แล้ว ภายใน 15 วัน จะสามารถบริหารโครงการได้อย่างราบรื่น และจนถึงปลายปี 52 ราคาตลาดยางแผ่นดิบซึ่งปัจจุบันราคาอยู่ที่ 50.45 บาท/กก. (ราคาตลาดประมูล) จะต้องไม่ต่ำกว่า 60 บาท/กก.(ราคาตลาดประมูล) และราคาน้ำยางดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน