ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 6.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยลงติดต่อกัน 8 เดือน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น โดยการลดดอกเบี้ยในวันนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น
แถลงการณ์ของธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่า "เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้เศรษฐกิจอินโดนีเซียมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2 นอกจากนี้ เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศคู่ค้าของอินโดนีเซียก็ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนยอดส่งออกของอินโดนีเซียและทำให้อินโดนีเซียมียอดการดุลการค้าพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.2 พันล้านดอลลาร์"
เดสทรี ดามายาติ นักวิเคราะห์จากบริษัท พีที แมนดิรี เซคูริตัส ในกรุงจาการ์ต้า กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของอินโดนีเซียมีแนวโน้มลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังจากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในเอเชียอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบไปแล้วกว่า 9.20 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสกัดกั้นเศรษฐกิจจากภาวะถดถอย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของอินโดนีเซียเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.65% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในสัดส่วนที่น้อยที่สุดในรอบ 9 ปี และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.85% อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่าดัชนีซีพีไอจะเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าระดับ 5% ในปีนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจะจับตาดูปัจจัยต่างๆที่จะสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
OECD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 3.5% ในปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวราว 3.5-4% หลังจากเศรษฐกิจขยายตัว 6.1% เมื่อปีที่แล้ว