สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ค.ใน 16 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร ร่วงลง 0.4% จากเดือนเม.ย. ซึ่งส่วนทางกับยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.1% นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคเริ่มกลับมาไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคตของตนในภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและลุกลามเป็นวงกว้างเช่นในเวลานี้
ขณะที่ยอดค้าปลีกในกลุ่มอียูทั้ง 27 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศที่ไม่ใช้เงินยูโร อาทิ อังกฤษ และ สวีเดน ปรากฏว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ลดลง 0.5% จากเดือนเม.ย. ซึ่งตรงกันข้ามกับสถิติเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.3% สำนักข่าวเอพีรายงาน