ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า การขยายตัวของการปล่อยเงินกู้ของธนาคารญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 แล้ว เนื่องจากบริษัทเอกชนได้ระดมทุนมากขึ้นผ่านการขายพันธบัตร ขณะที่การกู้ยืมเพื่อนำมาใช้จ่ายโบนัสช่วงฤดูร้อนลดลง หลังจากที่รายได้ของบริษัทต่างๆลดลงตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินกู้ในเดือนมิ.ย.ขยายตัว 2.5% จากระดับปีที่แล้ว และเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัวในเดือนพ.ค.ที่ 3.3%
คาสึโอะ ทานาเบะ ประธานชูโอ มิตซุย ทรัสต์ โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ความต้องการเงินกู้ซึ่งเคยขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 16 ปีเมื่อเดือนธ.ค.หลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายลงจนทำให้ตลาดพันธบัตรซบเซานั้น ร่วงลงสู่ระดับก่อนที่เลห์แมนจะล้มละลาย ส่วนยอดขายพันธบัตรในเดือนมิ.ย.ก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.7 ล้านล้านเยน หรือ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดปีที่แล้วกว่า 2.5 เท่า
มิชิโอะ คิตาฮาร่า รองผู้อำนวยการแผนกดูแลและเฝ้าระวังของธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวว่า การปล่อยเงินกู้ของธนาคารรายใหญ่ๆมีจำนวนลดลง เนื่องจากลูกค้าของธนาคาร บริษัทขนาดใหญ่ ต่างหันมาออกพันธบัตรกัน บริษัทเอกชนก็กู้ยืมเงินน้อยลง เนื่องจากผลประกอบการทางธุรกิจไม่ดีนักเมื่อปีที่แล้ว
ยอดการปล่อยกู้ของธนาคารรายใหญ่ 10 แห่งของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงมิซูโฮ และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.7% ส่วนธนาคารระดับภูมิภาคมียอดปล่อยเงินกู้เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่ 4%
บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นกู้ยืมเงินน้อยลง หลังจากที่มียอดเงินกู้สูงมากขึ้นตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว หลังจากที่ตลาดตราสารหนี้ซบเซา ส่งผลให้ธนาคารต่างๆไม่ค่อยจะเต็มใจการปล่อยกู้นักในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากค่าธรรมเนียมหนี้เสียนั้นสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่าในปีที่แล้วในกลุ่มแบงค์ใหญ่ 3 รายของประเทศ ส่งผลให้กำไรและเงินทุนหดตัวลง