ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่ง เหตุวิตกศก.หนุนนลท.แห่ซื้อดอลล์เลี่ยงความเสี่ยง

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 9, 2009 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเรื่องทิศทางเศรษฐกิจและราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกน้ำมันและทองคำที่ดิ่งลงอย่างหนักทำให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0902 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0888 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ร่วงลง 2.33% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 92.650 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.860 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.31% แตะที่ 1.3877 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3920 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ลดลง 0.47% แตะที่ 1.6053 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6128 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 1.38% แตะที่ 0.7783 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7892 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.53% แตะที่ 0.6252 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6285 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ความกังวลเรื่องทิศทางเศรษฐกิจและราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกน้ำมันและทองคำที่ดิ่งลงอย่างหนักทำให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยเมื่อวานนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 1.4% ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 1.3% อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 2.5% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 1.9%

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การยื่นขอวงเงินสินเชื่อของผู้บริโภคชาวสหรัฐลดลงสู่ระดับ 1.5%ต่อปี หรือลดลง 3.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะไม่เผชิญกับความเสี่ยงในการกู้ยืมเงิน

ค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจาก ฮาลิแฟกซ์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนมิ.ย.ร่วงลง 0.5% สวนทางคาดการณ์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังไม่หลุดพ้นจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่อัตราว่างงานก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดที่ 0.5% และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 2.5 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ