ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: แรงขายถ่วงดอลล์ร่วงเทียบยูโร,ปอนด์

ข่าวต่างประเทศ Friday July 10, 2009 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากตัวเลขว่างงานที่ลดลงในสหรัฐและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท อัลโค อิงค์ ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อสกุลเงินดอลลาร์ และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น

ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลง 1.17% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0776 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.0904 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ฟื้นตัวขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเยนที่ 92.940 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.810 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.11% แตะที่ 1.4030 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3876 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.74% แตะที่ 1.6345 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6066 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.57% แตะที่ 0.7828 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7784 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6294 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6253 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์จาก Brown Brothers Harriman กล่าวว่า นักลงทุนเทขายดอลลาร์และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 52,000 ราย สู่ระดับ 565,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 605,000 ราย

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ลดลงเพียง 26 เซนต์ต่อหุ้น ไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงถึง 38 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่ซีอีโอของอัลโคเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐและจีนจะช่วยให้ดีมานด์โลหะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากพอที่จะช่วยให้กระแสเงินทุนหมุนเวียนของอัลโคกระเตื้องขึ้นได้อีกครั้ง

ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางอังกฤษไม่ได้ประกาศขยายโครงการซื้อคืนสินทรัพย์เพื่อเพิ่มอุปทานเงินในระบบ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าแบงก์ชาติอังกฤษจะอัดฉีดเงินเพิ่มอีก 2.5 หมื่นล้านปอนด์ (4.05 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบการเงิน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ธนาคารได้ใช้เงินซื้อสินทรัพย์คืนไปแล้วเกือบ 1.25 แสนล้านปอนด์ (7.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้มีการลดดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ขณะนี้ดอกเบี้ยของอังกฤษลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ธนาคารกลางอังกฤษจึงได้ตัดสินใจใช้นโยบายทางการเงินที่เรียกว่า Quantitative Easing หรือนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ โดยมีเป้าหมายเพื่อผ่อนคลายแรงกดดันต่อสภาพคล่องและเพิ่มอุปทานเงินในประเทศผ่านทางการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ