ดัชนีราคาผู้ผลิตของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ร่วงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลงและบริษัทเอกชนหลายแห่งลดการใช้วัตถุดิบในยามที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตดิ่งลง 6.6% จากระดับในปีที่แล้ว และลดลงต่อเนื่องจากที่เคยทรุดตัว 5.5% ในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวยังดิ่งหนักกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6.4%
รายงานดัชนีราคาผู้ผลิตของญี่ปุ่นที่มีการเปิดเผยในวันนี้อาจจุดกระแสความหวั่นวิตกว่า ญี่ปุ่นจะเผชิญภาวะเงินฝืดซึ่งจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ตกต่ำหนักสุดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะเพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจและราคาสินค้าทรุดตัวไปอยู่ในช่วงขาลง
"เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มราคาสินค้าของเศรษฐกิจในประเทศ เราจะต้องพุ่งเป้าไปที่แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดภายในประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น" โคเฮย์ โมริตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอล ในโตเกียวกล่าว
ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าราคาสินค้าที่ปรับตัวลดลงในอนาคตอาจทำให้บริษัทและผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย และส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท รวมถึงกดดันให้บริษัทต่างๆลดค่าจ้างแรงงาน ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมและการส่งออกดีดตัวขึ้นหลังจากที่ทรุดตัวลงหนักเกินคาดในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของบีโอเจคาดว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตมีแนวโน้มลดลง 7.5% ในรอบปีที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.2553 ซึ่งทางบีโอเจจะทบทวนตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจครั้งต่อไปในการประชุมวันที่ 14-15 ก.ค.นี้