ทุนสำรองเงินต่างประเทศของจีนมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้รัฐบาลุมุ่งให้ความสนใจต่อปัญหาด้านการหาแหล่งลงทุนในประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีตัวเลขทุนสำรองเงินต่างประเทศสูงที่สุดในโลก
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ทุนสำรองเงินต่างประเทศของจีนจะไต่ระดับขึ้น 6.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 2.022 ล้านล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิ.ย. จากช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้ เมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้นเพียง 7.7 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารกลางจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ หรือสัปดาห์หน้า
โจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการทุนสำรองเงินในประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่รัฐบาลได้หารือถึงการกำหนดสกุลเงิน โดยนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่ากังวลว่า สินทรัพย์ของจีนที่ทางกระทรวงการคลังถือครองอยู่ 7.635 แสนล้านดอลลาร์นั้นอาจมีมูลค่าลดลง หลังสหรัฐขายตราสารหนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สตีเฟ่น กรีน ประธานสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ในกรุงเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า "จีนยังไม่มีทางเลือกที่ชัดเจนในการจัดการกับเงินดอลลาร์ที่อยู่เป็นจำนวนมากในทุนสำรองเงินต่างประเทศ"
ทั้งนี้ ทุนสำรองต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าภายในเวลา 2 ปีครึ่งจากผลของยอดเกินดุลการค้าที่ส่งผลให้มีเม็ดเงินแพร่สะพัดในระบบเศรษฐกิจจนทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมความเคลื่อนไหวของเงินหยวนในระดับต่ำเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออก ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจมองว่าเงินหยวนมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ควบคุมทิศทางความเคลื่อนไหวของเงินหยวนให้ทรงตัวในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากที่สกุลเงินดังกล่าวพุ่งขึ้น 21% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในระหว่างเดือนก.ค.2548-2551 ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นนั้น ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเพิ่มขึ้นกว่า 80% จากระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2551