นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ตามโครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน ที่จะสิ้นสุดมาตรการในสิ้นเดือน ก.ค.52
พร้อมกันนี้จะเสนอให้มีการพิจารณาทบทวนภาษีน้ำมัน หลังจากก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้แบกรับภาระส่วนนี้ไว้ แต่ขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาทบทวนอีกครั้ง หลังจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศได้ปรับลดลงมาแล้วถึง 2 ครั้ง
"ภาษีน้ำมันเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลได้ยกเลิกใช้เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว...หากไม่จำเป็นรัฐบาลก็ไม่อยากเพิ่มภาระให้ประชาชน ดังนั้นกรณีนี้รัฐบาลโดยคลังจำเป็นต้องพิจารณาภาษีน้ำมัน แต่ต้องดำเนินการให้ยุติธรรม ไม่เป็นภาระประชาชน และหากเป็นไปได้ก็จะพยายามพิจารณาภาษี หรือกิจกรรมอื่นที่ไม่มีผลต่อเศรษฐกิจมากเกินไป" รมว.คลัง กล่าว
นอกจากนี้เรื่องน้ำมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะเป็นสินค้าทุน เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ แต่ไทยมีการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศในจำนวนที่สูงมาก โดยที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน และไทยมีศักยภาพในการผลิตพลังงานทดแทนได้ เช่น ไบโอดีเซล ดังนั้นจึงต้องมีการบริหารราคาให้เกิดความสมดุล
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า การทบทวนอัตราการจัดเก็บภาษีน้ำมันจะพิจารณาอย่างเหมาะสม และไม่ให้กระทบต่อการเพิ่มเพดานภาษีน้ำมันที่ยังคงเดินหน้าต่อไป และไม่มีเหตุผลที่จะต้องแก้ไข ร่าง พ.ร.ก.แก้ไข พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต