นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งจะเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการนำเข้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ยอดส่งออกของสหรัฐทรุดตัวลงเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
ไมเคิล เกรกอรี่ นักวิเคราะห์จากบริษัท BMO Capital Markets กล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวลงตั้งแต่ยุโรปไปจนถึงเม็กซิโกส่งผลให้ดีมานด์สินค้าจากสหรัฐหดตัวลง และทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ต้นทุนการนำเข้าของสหรัฐแพงขึ้น ทำให้ยอดขาดดุลการค้าพุ่งสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ดีมานด์ของผู้บริโภคชาวอเมริกันที่อ่อนแอลงก็ยิ่งฉุดยอดส่งออกร่วงลงและทำให้ยอดขาดดุลสูงถขึ้นด้วย
ส่วนยอดขาดดุลการค้าสหรัฐในเดือนมี.ค. พุ่งแตะ 2.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.จากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำที่ฉุดรั้งรายได้จากการส่งออกสินค้าของสหรัฐ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานยอดขาดดุลการค้าประจำเดือนพ.ค.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย