ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทั้งปริมาณยางที่ออกสู่ตลาดและปริมาณความต้องการยางน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 52 นี้ จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนได้ส่งผลทำให้ความต้องการยางในตลาดโลกมีแนวโน้มที่น่าจะฟื้นตัวตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในด้านปริมาณยางที่ออกสู่ตลาดนั้นยังคงต้องจับตาว่า การคาดการณ์ว่าประเทศผู้ผลิตยางสำคัญอาจจะยกเลิกการร่วมมือกันลดปริมาณการส่งออกยางเพื่อพยุงราคายาง เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคายางในช่วงครึ่งหลังปี 52 มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องจับตาผลกระทบของภาวะเอลนิโน ทั้งในด้านความรุนแรงและพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาฝนแล้งและฝนทิ้งช่วง ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตยางในช่วงครึ่งหลังของปี 52 ด้วย
ส่วนในด้านความต้องการยางนั้น แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน น่าจะส่งผลให้ความต้องการยางกระเตื้องขึ้นอย่างมาก แต่ปัจจัยที่น่ากังวล คือ การที่สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุนการส่งออก(ซีวีดี)สินค้ายางรถยนต์ของจีน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่ส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นไปยังจีนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมยางรถยนต์ รวมทั้งข้อเรียกร้องจากเกษตรกรผู้ปลูกยางของจีนในการที่จะให้ยกเลิกการลดภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีนก่อนกำหนด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางของจีน
นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามราคาน้ำมันและตลาดหุ้นของสหรัฐฯที่เริ่มดิ่งลงในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปอาจจะไม่ฟื้นตัวรวดเร็วดังที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งปัญหาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกดังกล่าว อาจกระทบต่อความต้องการยางในตลาดโลกได้ แม้จะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นของจีนก็ตาม