นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 51 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ถือว่ามีผลกระทบน้อยมากกับธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย โดยเห็นได้จากยอดการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในไตรมาสแรกปีนี้ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงอยู่ที่ 57,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 14.95% จากเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 50,379 ล้านบาท
"ปัจจุบันประชาชนให้ความสำคัญกับการออมผ่านการประกันชีวิต ซึ่งให้ทั้งอัตราผลตอบแทนในระยะยาวและความคุ้มครอง จึงนับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการลงทุนของประชาชน" เลขาธิการ คปภ.กล่าว
สำหรับธุรกิจประกันวินาศภัย พบว่าในไตรมาสแรกปีนี้ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงอยู่ที่ 26,951 ล้านบาท ลดลงไม่ถึง 1% จากเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 27,154 ล้านบาท
โดยการประกันภัยประเภทต่างๆ ที่เติบโตเพิ่มขึ้น เช่น การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล, การประกันภัยสุขภาพ, การประกันอัคคีภัย, ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน และการประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เป็นผลมาจากประชาชนเล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการทำประกันภัย ซึ่ง คปภ.คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีแนวโน้มที่ดีและมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นต่อไป