นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาลที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้(14 ก.ค.) ให้พิจารณาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงลิตรละ 2 บาท มาอยู่ในหนึ่งมาตรการลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนที่จะมีการต่ออายุในเดือนหน้า เพราะถือเป็นการพิจารณาที่เร็วเกินไปหลังจากมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และขณะนี้ราคาน้ำมันก็อยู่ในช่วงขาลงอยู่แล้ว
โดยช่วงเวลาเหมาะสมที่รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องนี้ควรเป็นช่วงปลายปีที่ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามฤดูกาลมากกว่า เพราะคาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งการปรับลดภาษีสรรพสามิตในช่วงนี้จะมีผลต่อค่าครองชีพของประชาชน และจะส่งผลดีในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าจะเริ่มฟื้นตัวมากกว่า
นอกจากนี้หากมีการลดภาษีสรรพสามิตในช่วงนี้จะทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศมีราคาถูกเกินไป จนทำให้ประชาชนลดปริมาณการใช้พลังงานทดแทน รวมทั้งไม่ประหยัดพลังงานอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจโลกที่เดิมเคยคาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอาจฟื้นตัวได้ช้าลงเป็นช่วงปีหน้าแทน จึงทำให้ราคาน้ำมันดิบในช่วง 2-3 เดือน ปรับลดลงจากแรงเทขายของนักลงทุน
รวมถึงมาตรการด้านการป้องกันการเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ในหน่วยงานที่ดูแลราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในระดับนานาชาติมีมากขึ้น ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันขายปลีกในไทยก็ยังน่าจะเป็นขาลงต่อเนื่องตามทิศทางราคาน้ำมันสำเร็จรูปในสิงค์โปร์