รอยัล ฟิลิปส์ อิเล็คทรอนิกส์ เอ็นวี ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่สุดในยุโรป สามารถทำกำไรได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่าบริษัทจะขาดทุน
บริษัทมีกำไรสุทธิ 44 ล้านยูโร (61.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 5 เซนต์ต่อหุ้น ในไตรมาส 2 เทียบกับ 732 ล้านยูโร หรือ 72 เซนต์ต่อหุ้นเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขาดทุนถึง 122.5 ล้านยูโร
โดยรายได้ก่อนหักกำไร ภาษี และการด้อยค่าของสินทรัพย์ ลดลงเหลือ 118 ล้านยูโร จาก 396 ล้านยูโรในปีที่แล้ว ส่วนยอดขายลดลง 19% แตะ 5.23 พันล้านยูโร น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 5.32 พันล้านยูโร โดยยอดขายแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสุขภาพลดลง 5% แตะ 1.87 พันล้านยูโร ส่วนยอดขายจากแผนกสินค้าไลฟ์สไตล์ร่วง 36% แตะ 1.74 พันล้านยูโรจากปีที่แล้ว และยอดขายจากแผนกหลอดไฟลดลง 14% เหลือ 1.55 พันล้านยูโร
ตอนนี้ทางบริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลกำไรของฟิลิปส์อาจบ่งชี้ได้ว่าอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็คทรอนิกส์จะมีแนวโน้มอย่างไรท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เจอร์ราร์ด ไคลสเตอร์ลี ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่ายอดขายของบริษัทอาจไม่กระเตื้องขึ้นในไตรมาส 2 และบริษัทอาจต้องใช้มาตรการลดต้นทุนเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"เรายังคงจับตาดูสภาพเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมอย่างใกล้ชิด และเราอาจใช้มาตรการลดต้นทุนเพิ่มเติมอีกหากจำเป็น" ซีอีโอของฟิลิปส์ กล่าว
เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ฟิลิปส์กล่าวว่าจะดำเนินแผนปฏิรูปองค์กรในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยเฉพาะในธุรกิจหลอดไฟ ในขณะที่คู่แข่งรายสำคัญอย่าง เจเนอรัล อิเล็คทริก จะรายงานผลประกอบการในวันที่ 17 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ปิแอร์-ฌอง ซีวิคนอน หัวหน้าฝ่ายการเงินของฟิลิปส์ จะจัดการแถลงข่าวในเวลา 10.00 น.ตามเวลาอัมสเตอร์ดัม บลูมเบิร์กรายงาน