ประธานJBIC มองไทยยังน่าลงทุนในสายตา นลท.ญี่ปุ่น พร้อมหนุนนโยบายรัฐบาล

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 14, 2009 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างให้การต้อนรับ นายฮิโรชิ วาตานาเบะ ประธานและผู้บริหารสูงสุดของธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) ว่า ความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและไทย โดยเฉพาะในการร่วมกันมีบทบาทนำต่อการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจโลกในกรอบอาเซียนภายใต้ความร่วมมือตามมาตรการริเริ่มที่เชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) เป็นเรื่องที่ดี

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ และประธานเจบิค ได้หารือกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเห็นพ้องว่า เศรษฐกิจไทยและญี่ปุ่นได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และเจบิค มองตลาดในประเทศไทยในการลงทุนของญี่ปุ่น ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ขนาดเล็กซึ่งยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ นายฮิโรชิ กล่าวว่า ภารกิจของ JBIC ในการเดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ว่า ได้เข้าพบหารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ไทยหลายแห่ง เพื่อผลักดันให้ภูมิภาคเอเชียเป็นผู้นำหลักในการแก้ไขวิกฤตโลก

ส่วนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและโครงการของเจบิคในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก จะเน้นการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การลงทุนใน 4 สาขาหลัก คือ การลงทุนเพื่อพัฒนาการผลิตพลังงานสะอาด (Clean Power Generation) การลงทุนเพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Energy Efficiency Improvement) การลงทุนเรื่องน้ำ (Water) และการลงทุนระบบขนส่งในเมืองใหญ่ (Urban Transportation)

ซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางและยาวของรัฐบาลไทย โดยเจบิคเห็นถึงศักยภาพของไทยในการพัฒนาด้านการขนส่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด เพื่อให้มีระบบขนส่งเช่นเดียวกับที่กรุงโซลและกรุงโตเกียวที่ถือว่าเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งที่ดีในโลก

ประธานเจบิค ยังได้เปิดเผยถึงนโยบายใหม่ของเจบิค ที่สนับสนุนให้ต่างประเทศเริ่มเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในญี่ปุ่นมากขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นยังคงมีกำลังซื้อในประเทศสูง และถือโอกาสนี้เชิญชวนไทยเข้าไปลงทุนในญี่ปุ่น ซึ่งเจบิค พร้อมให้การสนับสนุนด้านข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนและทำธุรกิจแก่ไทยเช่นเดียวกัน พร้อมกล่าวชื่นชมบทบาทนำของนายกรัฐมนตรีในภูมิภาคนี้ และพร้อมที่จะสานต่อสิ่งที่ไทยได้ริเริ่มขึ้นเพื่อการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจต่อไป



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ