นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กองทุนบำนาญและกองทุนสวัสดิการสังคมของจีน อาจปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังตลาดหุ้นจีนไต่ระดับขึ้น 63% ในปีนี้และอาจพุ่งชนเพดาน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ กองทุนบำนาญและสวัสดิการสังคมซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นราว 16% ของมูลค่าสินทรัพย์ในตลาดที่มีอยู่ทั้งสิ้น 6.60 แสนล้านหยวน (9.663 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สามารถทำกำไรได้ 5.12 หมื่นล้านหยวน (7.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือเพิ่มขึ้น 9.99% จากการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
นสพ.ไชน่า เดลี่ รายงานอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์จากไชน่า ซินด้า ซีเคียวริตี้ว่า "บรรยากาศการซื้อขายในตลาดช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจมีความผันผวนมากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคยังไม่มีความแน่นอน ดังนั้น ทางกองทุนจึงอาจลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในตลาดลงเล็กน้อย"
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์จากบล.ตองไห่แสดงความเห็นในทิศทางเดียวกัน โดยชี้ว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนดีกว่าที่คาดการณ์ในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับความผันผวนในตลาดในช่วงไม่กี่เดือนต่อจากนี้อาจทำให้ทางกองทุนลดสัดส่วนการถือครองหุ้นลงเล็กน้อย เพื่อเป็นการรับประกันผลตอบแทนที่ปลอดความเสี่ยงมากกว่า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า การปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นจะไม่มีผลกระทบต่อบทบาทของกองทุนในฐานะที่เป็นผู้สร้างเสถียรภาพต่อตลาด
"สัดส่วนการถือครองหุ้นของกองทุนที่มีอยู่ราว 16% ของสินทรัพย์ในพอร์ทการลงทุนช่วงครึ่งปีแรกนั้นอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับกองทุนรวมบางแห่งที่ลงทุนในหุ้นถึง 70%" เขากล่าวทิ้งท้าย