ไอเอ็นจี กรุ๊ป คาดว่า ฮ่องกงจะขยายช่วงการซื้อขายเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้ เพื่อที่จะผลักดันให้เงินดอลลาร์ฮ่องกงแข็งค่าขึ้นพอที่จะสามารถรองรับกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนมายังฮ่องกงด้วยเช่นกัน
ธนาคารกลางฮ่องกงได้อัดฉีดเงิน 1.89 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 2.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เงินดอลลาร์ฮ่องกงแข็งค่าขึ้นจากช่วงการซื้อขายที่ได้มีการอนุมัติไว้ที่ 7.75 - 7.85 ดอลลาร์ฮ่องกง
ทิม คอนดอน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจีที่สิงคโปร์ กล่าวว่า ขีดจำกัดดังกล่าวอาจจะได้รับการผ่อนปรน เพื่อที่เงินดอลลาร์ฮ่องกงจะได้แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 6.80 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์เรื่องเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐ การตอบสนองที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ของเศรษฐกิจจีนที่มีต่อนโยบายการเงินและเงินตราที่คลี่คลายลงกว่าเดิมส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อเงินทุนที่ต้องการความเชื่อมั่นหนุนหลัง ซึ่งถือเป็นต้นตอของเรื่องชวนปวดหัวของธนาคารกลางฮ่องกง และยังจะเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ธนาคารต้องขยายช่วงการซื้อขายในที่สุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐที่ 7.8 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อดอลลาร์สหรัฐมาตั้งแต่ปี 2536 และมีการซื้อขายอยู่ที่ 7.7504 ดอลลาร์ฮ่องกง เมื่อเวลา 11.42 น.ตามเวลาท้องถิ่นในฮ่องกง และเงินดอลลาร์ฮ่องกงก็ไม่ได้อ่อนค่าลงมาต่ำกว่าระดับ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกองในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ส่วนเงินหยวนก็มีการซื้อขายอยู่ที่ 6.8334 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ คอนดอน คาดาการณ์ว่า เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น 1.5% แตะ 6.73 หยวนต่อดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้านี้
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนขยายตัว 6.1% ในไตรมาส 1 ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจของโลก ขณะที่เศรษฐกิจฮ่องกงหดตัวลง 7.8% โดยรัฐบาลจีนจะรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจไตรมาส 2 ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดว่า จะขยายตัว 7.8%