ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.) ยังไม่อนุมัติให้ปรับลดอัตราการนำเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายตามปริมาณน้ำตาลทรายโควตา ก.(ใช้ในประเทศ) ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เสนอมา 2 บาท/ก.ก. เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตสินค้าที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบ เนื่องจาก กรอ.เห็นว่ากองทุนอ้อยฯ ยังมีภาระหนี้ค้างอยู่กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) กลับไปศึกษาต้นทุนและผลกระทบหากมีการปรับลดอัตราการนำเงินเข้ากองทุนอ้อยฯ รวมทั้งนำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
"มติคณะกรรมการฯ ให้ส่งฝ่ายเลขาฯ กลับไปศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนในส่วนของผู้ประกอบการให้ชัดเจนก่อน ยังไม่มีแนวทางให้ลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ จาก 5 บาท เหลือ 2 บาท เพราะนายกฯ มีความกังวลใจหนี้ที่เหลืออยู่ 1.8 หมื่นล้านบาท อยากให้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อน อยากให้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อน ต้องการให้แก้ไขปัญหาให้เป็นระบบ" นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการใช้สิทธิซื้อน้ำตาลทรายโควตา ค.(สำหรับผลิตสินค้าส่งออก) นั้นที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการ เช่น ให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอรับสิทธิฯ ได้ปีละ 2 ครั้งจากเดิมปีละครั้ง, ให้ผู้ได้รับสิทธิฯ สามารถขนย้ายน้ำตาลในแต่ละเดือนได้มากหรือน้อยกว่าโควตาที่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากฤดูกาลของผลไม้ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไม่แน่นอน