นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ จะมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท. หลังจากสหภาพแรงงานพนักงาน รฟท.คัดค้านการจัดตั้งบริษัทลูกของ รฟท. 2 แห่ง ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ที่ประชุมจะหาแนวทางการดำเนินการเพื่อให้ รฟท.เดินหน้าได้ตามแผน โดยจะมอบหมายให้ฝ่ายบริหารของ รฟท. ชี้แจงกับสหภาพแรงงานฯ ในวันที่ 20 ก.ค.52 ให้เข้าใจถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร เพราะรัฐบาลจะต้องให้เงินสนับสนุนแก่ รฟท. ในวงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2 แสนล้านบาทภายในเวลา 5 ปี ดังนั้น รฟท. จึงต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของบุคลากรให้สอดคล้องตามแผน เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ นายประดิษฐ์ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะแปรรูป รฟท. หรือลดบทบาทของพนักงาน แต่การตั้งบริษัทลูก 2 แห่ง คือบริษัทเดินรถ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานให้มีข้อสรุปภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ เพื่อนำผลหารือต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาต่อไป
"ในวันจันทร์นี้ จะให้ฝ่ายบริหารของการรถไฟฯ ชี้แจงทำความเข้าใจกับสหภาพฯ หากไม่ได้ผล ผม หรือ ระดับกระทรวงก็พร้อมที่จะชี้แจงให้เข้าใจว่า เราไม่มีนโยบายแปรรรูป แต่วงเงินที่รัฐบาลจะใส่ไป 2 แสนล้านบาทนั้นการรถไฟเองก็ต้องมีปรับปรุงประสิทธิภาพ มีแนวคิดใหม่ๆ มีภาคเอกชนมาร่วมเสนอแนะแนวทาง" นายประดิษฐ์ กล่าว
รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจะเป็นต้องเดินหน้าฟื้นฟูกิจการ รฟท. ตามแผน โดยเฉพาะโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตลิ้งค์) ต้องเดินรถให้ได้ตามกำหนดเวลาภายในสิ้นปีนี้ และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ ไม่เกินไตรมาส 2/53