ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังผลประกอบการเจพีมอร์แกนหนุนนลท.แห่เทรดตลาดหุ้น

ข่าวต่างประเทศ Friday July 17, 2009 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เนื่องจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้กดดันนักลงทุนให้ลดการถือครองดอลลาร์และแห่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันอย่างหนักอยู่แล้วจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของโกลด์แมน แซคส์

ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.47% แตะที่ 93.820 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ 94.260 เยนต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.67% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0740 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.0745 ฟรังค์ต่อดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.26% แตะที่ 1.4141 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4104 ดอลลาร์ต่อยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.11% แตะที่ 1.6442 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.6424 ดอลลาร์ต่อปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.22%แตะที่ 0.8052 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8034 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.18% แตะที่ 0.6478 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6490 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์และเข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ที่รายงานผลกำไรไตรมาสสอง เพิ่มขึ้น 36% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง โดยผลกำไรสุทธิไตรมาสสองอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 28 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 53 เซนต์ในปีก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น ได้คาดการณ์ไว้ที่ 5 เซนต์ต่อหุ้น

เจพีมอร์แกนระบุในแถลงการณ์ว่า ธนาคารสามารถทำกำไรได้ แม้ว่าจะมีรายจ่ายคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 27 เซนต์ต่อหุ้น เนื่องจากธนาคารได้ชำระเงินกู้ทั้ง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐคืนให้แก่รัฐบาล โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) นอกจากนี้ ธนาคารยังเสียค่าปรับให้แก่บรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เป็นจำนวน 10 เซนต์ต่อหุ้นด้วย

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนถือเป็นธนาคารแห่งเดียวในอันดับท็อป 5 ของสหรัฐที่สามารถทำกำไรได้ทุกไตรมาสตั้งแต่ที่วิกฤตการเงินได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2550 เนื่องจากรายได้ในธุรกิจวาณิชธนกิจ ธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ และอันเดอร์ไรท์ที่เข้มแข็ง สามารถชดเชยหนี้ค้างชำระที่เพิ่มสูงขึ้นจากธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยและบัตรเครดิตได้

การเปิดเผยผลประกอบการของเจพีมอร์แกนมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ โกลด์แมน แซคส์ ธนาคารอันดับ 5 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ ได้เปิดเผยผลกำไร 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.09 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวลดลง 47,000 ราย แตะระดับ 522,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขดังกล่าวจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 575,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ