อินเตอร์เนชั่นแนล บิสิเนส แมชชีน คอร์ป (ไอบีเอ็ม) รายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่สูงเกินคาด แม้ยอดขายปรับตัวลดลง โดยบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปี แม้จะยังคงเผชิญแรงกดดันด้านต้นทุนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ไอบีเอ็ม บริษัทผู้ให้บริการคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า รายได้สุทธิช่วงไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 12% และคาดว่าในปีนี้รายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ 9.70 ดอลลาร์/หุ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า รายได้สุทธิของไอบีเอ็มช่วงไตรมาสสองเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.32 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 2.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.97 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.02 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่ยอดขายลดลง 13% มาอยู่ที่ระดับ 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยไอบีเอ็มเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีรายที่ 2 ต่อจากอินเทล คอร์ป ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาดการณ์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหนักสุดในรอบ 50 ปีได้เป็นอย่างดี โดยไอบีเอ็มได้ปรับลดพนักงานและโยกย้ายการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศเพื่อปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เดวิด กรอสแมน นักวิเคราะห์จากโทมัส ไวเซล พาร์ทเนอร์ส แอลแอลซีระบุ พร้อมกับชี้ว่า "ไอบีเอ็มกำลังให้ความสำคัญในการกระตุ้นการขยายตัวของผลกำไรจากการบริการอย่างต่อเนื่อง"
ในปีนี้ ไอบีเอ็มได้ปลดพนักงานแล้วกว่า 9,000 ตำแหน่ง พร้อมปรับลดต้นทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์คาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีทั่วโลกจะลดลง 8% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะลดลง 9%
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้ปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนของฝ่ายขายและธุรการลง 19% ในช่วงไตรมาสสอง และหั่นต้นทุนฝ่ายวิจัยและพัฒนาลง 14%
ทั้งนี้ หุ้นไอบีเอ็มเพิ่มขึ้น 1.5% ในช่วงท้ายของการซื้อขายในตลาด ขณะที่ในปีนี้หุ้นไอบีเอ็มทะยานขึ้น 31%