อินโดนีเซียเปิดเผยว่า ได้กำหนดเงื่อนไขในการขายพันธบัตรซามูไรมูลค่า 3.5 หมื่นล้านเยน หรือ 374 ล้านดอลลาร์ให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ที่มีคุณสมบัติถูกต้อง แม้ว่าจะเกิดเหตุระเบิดโรงแรมหรู 2 แห่งในกรุงจาการ์ต้าช่วงเช้าวันนี้
รัฐบาลอินโดนีเซียได้ขายพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ราคาพาร์ ให้ผลประโยชน์ตอบแทน 2.73% ซึ่งถือเป็นการขายพันธบัตรครั้งแรกของอินโดนีเซียนับตั้งแต่ที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ ล้มละลาย โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะระดมทุนจากการขายพันธบัตรในญี่ปุ่นให้ได้ถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการขายพันธบัตรครั้งนี้จะมีส่วนช่วยหนุนงบประมาณการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน่ ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวให้ได้ในอัตรา 7% และดึงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
บลูมเบิร์กรายงานว่า เอ็ดเวิร์ด ลี นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ตลาดพันธบัตรในประเทศคงจะยังมีแรงกดดันต่อไป เพราะนักลงทุนได้กระจายการลงทุนไป ส่งผลให้ตอนนี้นักลงทุนหน้าใหม่เป็นที่ต้องการ
เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากเกิดเหตุระเบิดโรงแรมริทซ์ คารล์ตัน และเจดับบลิว แมริออท ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก โดยเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงแล้ว 0.7% แตะ 10,195 รูเปียห์ต่อดอลลาร์เมื่อเวลา 9.31 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงจาการ์ต้า