ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดในสัปดาห์หน้า (20-24 กรกฎาคม 2552) เงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 33.90-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ตัวเลขส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าไทยเดือนมิถุนายนของกระทรวงพาณิชย์ การปรับตัวของสกุลเงิน/ตลาดหุ้นในภูมิภาค ตลอดจนสัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธปท. ขณะที่ ทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ อาจขึ้นอยู่กับข่าวเกี่ยวกับผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2552 ของบริษัทจดทะเบียน
และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิถุนายน ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม จัดทำโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน (ขั้นสุดท้าย)
นอกจากนี้ ตลาดการเงินยังจับตาการแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดในวันที่ 21-22 กรกฎาคมนี้ อีกด้วย
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทในประเทศ ยังคงไร้ทิศทางเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างมากในช่วงต้นสัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความต้องการเงินดอลลาร์ฯ ของนักลงทุน และธนาคารต่างชาติ ขณะที่ ตลาดคาดการณ์ว่า มีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ บางส่วนจากผลของการเข้าแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินของธปท.ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เงินบาทสามารถลดช่วงติดลบ และทยอยแข็งค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.05 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (10 กรกฎาคม)