รายงานที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 15 - 16 ก.ค.ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะพิจารณาเรื่องกำหนดเวลาในการยกเลิกโครงการสินเชื่อทั้ง 3 โครงการแยกกันไป เนื่องจากมาตรการแต่ละมาตรการนั้นมีเป้าหมายและกรอบการดำเนินงานที่แตกต่างกันไป รวมถึงผลพวงที่จะเกิดขึ้นในตลาดเงินและสถานการณ์ด้านการเงินโดยรวม ด้วยเหตุนี้ที่ประชุมจึงไฟเขียวให้มีการพิจารณาเรื่องการยกเลิกมาตรการแต่ละมาตรการเป็นรายๆไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ขยายระยะเวลาในการใช้นโยบายในการซื้อตราสารหนี้จากธนาคาร และจัดหาเงินกู้ให้โดยไม่จำกัดเพดานไปจนกระทั่งถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ด้านการปล่อยเงินกู้อยู่ในขั้นที่รุนแรงท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ทางด้านนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการแบงค์ชาติญี่ปุ่น กล่าวว่า การคงนโยบายไว้นานเกินไปอาจจะสร้างความเสียหายต่อตลาดสินเชื่อ
บลูมเบิร์กรายงานว่า จูเลียน เจสซอป หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแคปิตอล อิโคโนมิสท์ กล่าวว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะผันผวนอย่างหนักด้านการเงินและเศรษฐกิจนั้น เห็นได้ชัดว่ามีอยู่สูง หากสถานการณ์ต่างๆเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ความต้องการเงินช่วยเหลือฉุกเฉินก็คงจะลดน้อยลงไป หรือไม่ธนาคารก็อาจจะยกเลิกบริการดังกล่าวได้
นับตั้งแต่ที่แบงค์ชาติญี่ปุ่นได้ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.1% เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ธนาคารได้ซื้อตราสารหนี้และพันธบัตรจากธนาคาร รวมถึงให้สินเชื่อไม่จำกัดเพดานเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการออกตราสาร โดยที่ประชุมได้เลื่อนวันหมดอายุของมาตรการทั้ง 3 โครงการไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค. จากเดิมวันที่ 30 ก.ย.