วอลโว่ บริษัทผลิตรถบรรทุกสัญชาติสวีเดน ประสบภาวะขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน หลังยอดขายร่วงลงกว่า 1 ใน 3 อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่ลดลงอย่างมากในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.
โดยวอลโว่ขาดทุนสุทธิ 5.56 พันล้านโครเนอร์ (718 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 2 ทั้งที่สามารถทำกำไรได้ถึง 5.1 พันล้านโครเนอร์ในไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่ลดลง 33% เหลือ 5.4 หมื่นล้านโครเนอร์ เทียบกับ 8.04 หมื่นล้านโครเนอร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
"ตลาดรถบรรทุกยังคงซบเซา ทั้งในยุโรป อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น" ลีฟ โจฮันสัน ซีอีโอของวอลโว่ กล่าวในแถลงการณ์
ในขณะเดียวกัน ยอดการส่งมอบรถบรรทุกก็ร่วงลงถึง 57% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก แต่ยอดสั่งจองรถบรรทุกกลับเพิ่มขึ้น 32% จากระดับต่ำสุดในไตรมาสแรก
วอลโว่ยังคงคาดการณ์ว่า ตลาดรถบรรทุกหนักในยุโรปจะหดตัวลงอย่างน้อย 50% ในปีนี้ ส่วนตลาดในอเมริกาเหนือน่าจะหดตัวลงราว 30-40%
ทั้งนี้ นอกจากผลิตรถบรรทุกแล้ว วอลโว่ยังผลิตรถบัส เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ก่อสร้าง โดยก่อนหน้านั้นบริษัทได้ขายธุรกิจรถยนต์ให้กับฟอร์ด มอเตอร์ ไปในปี 2542 สำนักข่าวเอพีรายงาน