อังกฤษเผยยอดขาดดุลงบประมาณเดือนมิ.ย.สูงขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจกระทบรายได้จัดเก็บจากภาษีหดตัว

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 21, 2009 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษมียอดขาดดุลงบประมาณถึง 1.3 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการเก็บสถิติเมื่อปี 2536 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีหดตัวลง และยอดการขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

เมื่อเทียบกับปีก่อน อังกฤษขาดดุลงบประมาณเพียง 7.5 พันล้านปอนด์ หลังจากที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีร่วงลง 5.7% และการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์ก นิวส์สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนมิ.ย.ปีนี้จะอยู่ที่ 1.55 หมื่นล้านปอนด์

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ได้กล่าวย้ำถึงความเป็นจำเป็นที่ต้องเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายและนำเงินไปใช้ด้านการพัฒนาโรงเรียนและโรงพยาบาล ซึ่งเขาหวังชูประเด็นการเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายเป็นนโยบายหลักสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในปีหน้า โดยเขาได้กล่าวกับสหภาพ GMB เมื่อเดือนที่แล้วว่า พรรคแรงงานต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่าย ซึ่งรวมถึงพรรคฝ่ายค้าน และแม้แต่นายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเพิ่มตัวเลขใช้จ่าย เนื่องจากจะยิ่งทำให้การควบคุมยอดขาดดุลเป็นเรื่องยากมากขึ้น นอกจากนี้บราวน์ยังเผชิญความเสี่ยงที่จะสร้างแรงกดดันให้กับเงินปอนด์ ถ้าเขาไม่ออกมาให้คำมั่นว่ามีแผนที่จะลดยอดขาดดุลเมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลง

รูท ลี นักเศรษฐศาสตร์ของอาร์บุทนอท แบงกิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างจะน่าตกใจ หากมีรัฐบาลใหม่เข้ามา รัฐบาลก็จำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในตลาด อังกฤษคงจะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากต่อไปในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ