แคททาพิลลาร์ อิงค์ (Caterpillar Inc.) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างรายใหญ่สุดของโลก เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดิ่งลงตามยอดขายที่ร่วงหนัก แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปีนี้โดยอ้างถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเฉพาะในประเทศจีนที่เริ่มเห็นผล ซึ่งทำให้มีสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมามีเสถียรภาพหลังจากที่ตกต่ำเป็นเวลานาน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กำไรสุทธิของแคททาพิลลาร์ตกลง 66% แตะที่ 371 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 60 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับระดับ 1.11 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ดอลลาร์/หุ้นในปีก่อน ขณะที่รายได้ร่วงลง 41% แตะที่ 7.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากผลกระทบของยอดขายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ตกลง 43%
จิม โอเวนส์ ประธานและซีอีโอของแคททาพิลาร์กล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีความแน่นอนอยู่มาก แต่เราก็เริ่มเห็นถึงสัญญาณของความมีเสถียรภาพที่เราหวังว่าจะได้เห็นปัจจัยพื้นฐานของการฟื้นตัวได้ในที่สุด นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวในตลาดสินเชื่อที่เริ่มดีขึ้นมาก ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำในช่วงไตรมาสแรกทำให้ผู้บริโภคสามารถยืมเงินมาซื้อสินค้าของแคททาพิลลาร์ได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ แคททาพิลลาร์กำลังดำเนินมาตรการปรับลดต้นทุนอย่างเต็มสูบ รวมถึงมีแผนปรับลดพนักงานกว่า 22,000 ตำแหน่งและปรับลดกำลังการผลิตลงเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาสสองของปีนี้บริษัทมีพนักงาน 95,761 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงจากปี 2551 ที่มีพนักงาน 112,887 ตำแหน่ง
โดยยอดขายเครื่องมือเครื่องจักรของแคททาพิลลาร์ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของรายได้ ร่วงลง 49% อันเป็นผลมาจากยอดขายในยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลางที่ดิ่งหนัก 61% ตามด้วยยอดขายในอเมริกาเหนือที่ทรุดตัวลง 51% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ทั่วโลกที่ซบเซา รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทสินแร่เหล็กที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่ารายได้ต่อปีจะอยู่ที่ 3.2-3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 31.5 -3.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายของบริษัทจะอยู่ระดับ 3.486 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนี้ ยังคาดการณ์ว่าผลกำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.15-2.25 ดอลลาร์/หุ้น จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ในระดับ 1.25 ดอลลาร์/หุ้น