นักลงทุนทั่วโลกต่างพอใจการทำงานของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการต่อสู้กับวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) นอกจากนี้ พวกเขายังสนับสนุนให้เบอร์นันเก้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกสมัย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวดีขึ้น
นักลงทุน 61% จากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 14-17 ก.ค.โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มมีเสถียรภาพหรือฟื้นตัวดีขึ้น และเกือบ 75% ต่างแสดงท่าทีขานรับการทำงานของประธานเฟดคนปัจจุบันพร้อมทั้งชี้ว่า เบอร์นันเก้สมควรดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อไปอีก 4 ปี
"เบอร์นันเก้สามารถทำหน้าที่ประธานเฟดได้ที่สุด" วอลเลซ ลิน นักวิเคราะห์จากยูโร แอซเซท เมเนจเมนท์ในฮ่องกงกล่าว ขณะที่นักลงทุนรายอื่นๆที่ทำการสำรวจได้จัดอันดับความนิยมโดยให้เบอร์นันเก้รั้งอันดับหนึ่งนำหน้าประธานธนาคารกลางจากประเทศอื่นๆ โดยมีนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปตามหลังมาเป็นอันดับ 2 ต่อด้วยนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษรั้งอันดับ 3 และอันดับ 4 เป็นของนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน
การแสดงความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ช่วยเสริมสร้างบทบาทการทำงานของเบอร์นันเก้ให้โดดเด่นมากขึ้น ในยามที่เขาเผชิญกับกระแสวิกพากษ์วิจารณ์จากสภาคองเกรสเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตในการช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาจากภาวะวิกฤต
อย่างไรก็ตาม มาร์ติน เฟลดสเตน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดแสดงความเห็นชื่นชอบการทำงานของเบอร์นันเก้พร้อมทั้งเสนอให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกหนึ่งสมัย ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐก็กล่าวชื่นชมการทำงานของเบอร์นันเก้ในฐานะประธานเฟดเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินมาตรการรับมือกับวิกฤตสินเชื่อด้วยการปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0-0.25% ในปัจจุบัน และขยายวงเงินสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจไป 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา