นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี ดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำ และราคาบ้านที่ลดลง
โดยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 68 รายซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองอาจเพิ่มขึ้น 1.5% แตะ 4.84 ล้านหลังในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.
หากยอดขายบ้านมือสองปรับตัวสูงขึ้นจริงอาจหมายความว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้ภาคครัวเรือนที่ลดลงเป็นประวัติการณ์และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงเป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจอยู่ระหว่าง 4.7-5 ล้านหลัง
ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอาจเพิ่มขึ้น 33,000 ราย แตะ 555,000 ราย ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. หลังจากที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 95,000 รายในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน