นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้น หากพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและจะตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยนาโอมิ ฟิงค์ นักวิเคราห์จากแบงค์ ออฟ โตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้มูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินในภาคครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ล้านล้านเยน หรือ 14.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ซูซูมุ คาโตะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์คาลิยง กล่าวว่า "อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะช่วยให้รายได้ของผู้รับเงินบำเน็จบาญสูงขึ้นด้วย หนึ่งในเหตุผลที่ภาคครัวเรือนไม่ยอมนำเงินออกมาใช้จ่ายก็เพราะไม่คิดว่าตัวเลขรายได้จะเพิ่มขึ้น"
"พรรคดีพีเจให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนภาคครัวเรือนด้วยการกระตุ้นรายได้ ให้เช็คเงินสดเพื่อช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตรหลาน และปรับลดค่าเล่าเรียน รวมทั้งระมัดระวังท่าทีว่าจะไม่เข้าแทรกแซงนโยบายของบีโอเจ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถือเป็นการดำเนินการที่สวนทางกับเจตนารมณ์ของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งต้องการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ" นักวิเคราะห์จากคาลิงกล่าว
นายทสึโตมุ โอคุโบ คณะกรรมการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นจากพรรคดีพีเจ กล่าวว่า พรรคดีพีเจจะเคารพในสิทธิอำนาจของบีโอเจ ขณะที่ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์นิกเกอิบ่งชี้ว่า คะแนนนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคดีพีเจนั้นมีมากกว่าพรรคแอลดีพีถึง 10%
นายกรัฐมนตรี ทาโร่ อาโสะ ของญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกรุยทางสู่การเลือกตั้งซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 30 ส.ค. ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2548 และยังเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่จะจัดขึ้นในเดือนส.ค.นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 บลูมเบิร์กรายงาน