ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ส่งสัญญาณให้การสนับสนุนข้อเสนอการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐบางแห่ง เพื่อชดเชยตัวเลขขาดทุนจากการทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงภาวะล่มสลายของตลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมเรียกร้องสภาคองเกรสเห็นชอบแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพผ่านการขึ้นภาษี
โอบามากล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนนี้ว่า สหรัฐจำเป็นต้องมีกลไกทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับที่บรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp : FDIC) บังคับใช้กับสถาบันการเงินในประเทศโดยมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงมิให้บริษัทต่างๆทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังกล่าวถึงกลุ่มผู้บริหารของสถาบันการเงินที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลว่าควรจะสำนึกและละอายแก่ใจในการรับเงินโบนัสหลายล้านดอลลาร์ด้วย
นอกจากนี้ โอบามายังใช้โอกาสการแถลงข่าวครั้งนี้เรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการตามแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า จะมีทางเลือกที่เป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมชาวอเมริกาอย่างทั่วถึง 46 ล้านราย ด้วยการจัดเก็บภาษีของบริษัทประกันเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าการออกมาตรการยกเครื่องระบบการดูแลสุขภาพจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ประสบภาวะยากลำบากอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
"ในยามที่ทุกคนกำลังเผชิญกับวิกฤต บริษัทประกันรายงานผลกำไรและรายได้จากเบี้ยประกันมากขึ้น" โอบามากล่าว
ทั้งนี้ โอบามาให้คำมั่นว่าแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพจะไม่ทำให้สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงในครอบครัว ซึ่งเขากล่าวว่าจะเปิดรับฟังความเห็นในการยกเครื่องระบบการดูแลสุขภาพที่ขณะนี้มีการเสนอให้ขึ้นการจัดเก็บภาษีกลุ่มครอบครัวที่มีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป