พอร์ช ผู้ผลิตรถหรูสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยว่า เวนเดอลิน วีเดคิง ซีอีโอ และ โฮลเกอร์ แฮร์เทอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ได้ลาออกจากบริษัทแล้ว โดยมีผลในทันที ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้รับการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเป็นการเปิดทางไปสู่การควบรวมกิจการกับ โฟล์คสวาเกน
รายงานระบุว่า วีเดคิง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่ได้รับค่าจ้างสูงสุดในเยอรมนี จะได้รับเงินชดเชยถึง 50 ล้านยูโรจากการลงจากตำแหน่งครั้งนี้ โดยเงินครึ่งหนึ่งจะถูกนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศล ส่วนแฮร์เทอร์จะได้รับเงินชดเชย 12.5 ล้านยูโร
จากนี้ไป มิชาเอล มัคท์ สมาชิกบอร์ดบริหารผู้รับผิดชอบด้านการผลิต จะเข้ารับตำแหน่งแทนวีเดคิง ส่วน โธมัส เอดิก หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะรับตำแหน่งผู้ช่วยของเขา
วีเดคิง วัย 56 ปี เข้าร่วมงานกับพอร์ชในปี 2526 และออกจากบริษัทในปี 2531 ก่อนที่จะกลับมาร่วมงานอีกครั้งในปี 2534 และได้ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอในปี 2536 ทั้งนี้ วีเดคิงได้รับการยอมรับในฐานะผู้พลิกฟื้นสถานะของบริษัทในช่วงปี 2533 แต่ปัจจุบันเขากลับทำให้บริษัทมีหนี้ 9 พันล้านยูโรจากการพยายามซื้อหุ้นเพิ่มเติมในโฟล์คสวาเกน จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 51%
ข่าวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยหลังบอร์ดบริหารของพอร์ชและโฟล์คสวาเกนได้ประชุมร่วมกันทั้งคืน เพื่อพูดคุยถึงแผนการเทคโอเวอร์ นักลงทุนรายใหม่ และอนาคตของบริษัท โดยก่อนหน้านี้พอร์ชเผยว่าจะเพิ่มทุนของบริษัทให้ได้อย่างน้อย 5 พันล้านยูโร (7.1 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นบอร์ดบริหารของพอร์ชยังอนุญาตให้มีการเจรจาขายหุ้นให้รัฐบาลกาตาร์เพื่อเพิ่มงบดุลด้วย