ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร,ปอนด์ หลังข้อมูลศก.สหรัฐกระตุ้นนลท.แห่เทรดตลาดหุ้น

ข่าวต่างประเทศ Friday July 24, 2009 07:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงยอดขายบ้านของสหรัฐ และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากยอดค้าปลีกที่สดใสในอังกฤษ

ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.44% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4145 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4208 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.10% เมื่อเทียบกับปอนด์ที่ 1.6474 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6457 ปอนด์/ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์พุ่งขึ้น 1.41% เมื่อเทียบกับเยนที่ 94.910 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 93.590 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.80% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0746 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0661 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.54% แตะที่ 0.8111 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.8155 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.94% แตะที่ 0.6520 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6582 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

บลูมเบิร์กรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กค่อนข้างผันผวนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากฟอร์ด มอเตอร์ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด และหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านที่แข็งแกร่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ต่างจากในช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความกังวลเรื่องผลประกอบการภาคเอกชน ทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อเลี่ยงความเสี่ยง

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.6% แตะที่ 4.89 ล้านยูนิตต่อปี จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.72 ล้านยูนิตต่อปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.84 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านเดือนมิ.ย.ของสหรัฐได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี ดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำ และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งทำเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาสสองที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 69 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการลดต้นทุน และการได้ส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐเพิ่มขึ้น

ส่วนค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ตัวเลขค้าปลีกในเดือนมิ.ย.ไต่ขึ้น 1.2% หลังจากที่ทรุดลง 0.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวขึ้นเพียง 0.3% ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.2551 ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ