บีเอ็นพี พาริบาส เอสเอ กล่าวว่า ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของจีนอาจทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11 ล้านล้านหยวน (1.6 ล้านล้านดอลลาร์) ในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลผ่อนปรนนโยบายปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ดังกล่าวจะมีสัดส่วนราว 33.9% ของจีดีพีของจีนในปีนี้ จากเดิมที่บีเอ็นพีคาดการณ์ว่าจีนจะมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่เพียง 8.5 ล้านล้านหยวน
"แม้จะมีคำเตือนว่ายอดปล่อยสินเชื่ออยู่ในอัตราที่ร้อนแรงเกินไปในเดือนมิ.ย. แต่ทางการจีนไม่น่าจะคุมเข้มนโยบายปล่อยสินเชื่อจนกว่าจะหมดปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลกังวลว่าเศรษฐกิจจะกลับมาถดถอยมากกว่า" ดอร์ริส เฉิน นักวิเคราะห์จากเซี่ยงไฮ้ กล่าว
ในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารในจีนเพิ่มยอดปล่อยสินเชื่อใหม่จนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.37 ล้านล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3 เท่า และสูงกว่าเป้าทั้งปีที่รัฐบาลตั้งไว้ถึง 47% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลผ่อนปรนนโยบายปล่อยสินเชื่อตั้งแต่เดือนพ.ย.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ กล่าวเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ความเสี่ยงด้านสินเชื่อของธนาคารในจีนกำลังเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์กลับด้อยลง คำเตือนดังกล่าวกดดันให้คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีน (CBRC) ออกคำสั่งให้ธนาคารจีนต้องมีเงินสำรองสูงกว่าระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และคุมเข้มข้อกำหนดการปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 นอกจากนั้นรัฐบาลยังต้องป้องกันมิให้การปล่อยสินเชื่อขยายตัวมากผิดปกติ เนื่องจากอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงและเกิดความเสี่ยงด้านการเงินได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน