ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนก.ค.มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน จากผลกระทบของอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ค่าจ้างแรงงานร่วงลงจนส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ค.ร่วงลงแตะ 65 จุด จากระดับ 70.8 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งทางการจะรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเวลา 10:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย
ตัวเลขการจ้างงานที่ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 80 ปีทำให้ชาวอเมริกันวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในตลาดแรงงานที่เผชิญกับความไม่แน่นอน ประกอบกับมูลค่าบ้านที่ลดลงทำให้ภาคครัวเรือนต้องปรับลดการใช้จ่ายและรัดเข็มขัดมากขึ้น
นักวิเคราะห์จากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ตัวเลขการจ้างงานที่ลดลงคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายปรับตัวลดลงในระยะนี้"
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐสูญเสียแรงงานในประเทศไปแล้วถึง 6.5 ล้านตำแหน่งนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในเดือนธ.ค.2550 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานอาจพุ่งขึ้นจากระดับ 9.5% ในเดือนมิ.ย.ไปแตะที่ระดับ 10% ช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
โดยกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า รายได้ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2507 ที่ระดับ 0.7% ต่อปี ขณะที่กระรวงพาณิชย์รายงานว่ายอดเงินออมของผู้บริโภคในเดือนพ.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี