หนังสือพิมพ์บิสนิสของอินโดนีเซียรายงานในวันนี้ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียที่ขยายตัวแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ธนาคารโลกร้องขอให้อินโดนีเซียเข้ามามีส่วนร่วมในธนาคารโลกมากขึ้นด้วยการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารโลก โดยนายโจอาชิม วอน แอมสเบิร์ก ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการอินโดนีเซียของธนาคารโลกกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่นๆ แม้ในยามที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตการณ์รุนแรงก็ตาม
ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีกำหนดจะจัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในระหว่างวันที่ 6-7 ต.ค.ที่ตุรกี โดยจะมีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารโลกของสมาชิกหลายประเทศ รวมถึง อินโดนีเซีย และกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน) ที่คาดว่าจะเพิ่มการถือครองหุ้นในธนาคารโลกนับตั้งแต่ได้รับการยอมรับในเรื่องของเศรษฐกิจ
"ธนาคารโลกจะแข็งแกร่งขึ้นหากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างอินโดนีเซีย และ BRIC เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น โดยตัวเลขจีดีพีของอินโดนีเซียขยายตัวรวดเร็วเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอินเดีย นอกจากนี้ การเมืองที่มีเสถียรภาพและการลงทุนที่ฟื้ตัวขึ้น อาจทำให้เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัวได้ถึง 7% หรือมากกว่า" นายโจอาชิมกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อินโดนีเซียเป็นหนึ่งใน 186 ชาติสมาชิกของอินโดนีเซียตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ปีพ.ศ.2510 โดยอินโดนีเซียถือหุ้นอยู่ในธนาคารโลก 1,4981 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.95 ของผู้ถือหุ้นโดยรวม