ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนมิ.ย.พุ่งสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 11% ซึ่งถือเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเลวร้ายถึงขีดสุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นั้นเริ่มกลับมามีเสถียรภาพแล้ว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะที่ 384,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่จำนวนบ้านในตลาดอสังหาริมทรัพย์ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี
นักวิเคราะห์จากดอยช์แบงก์ ซีเคียวริตี้ และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศด้านการสร้างบ้านที่ดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่มูลค่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่วนอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสองปัจจัยนี้จะเป็นตัวฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ
"เราผ่านพ้นจุดต่ำสุดของวิกฤตไปแล้ว แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเปราะบาง" โจเซฟ ลาวอร์คนา นักวิเคราะห์จากดอยช์แบงก์ ซีเคียวริตี้ ในนิวยอร์กกล่าว "ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ราคาบ้านจะลดลงถึงจุดต่ำสุด ซึ่งเราคาดว่าอาจต้องรอถึง 3-6 เดือนข้างหน้า"
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์รายงานในก่อนหน้านี้ว่ายอดการเริ่มก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 582,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
ทั้งนี้ รีเบคก้า แบลงก์ รองเลขาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจในสังกัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ยอดขายบ้านใหม่ที่ถีบตัวสูงขึ้นแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว