แบงก์ ออฟ ไชน่า ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของจีนตั้งเป้ารักษาระดับการขยายตัวในการปล่อยสินเชื่อช่วงครึ่งปีหลัง หากรัฐบาลยังไม่กำหนดมาตรการจำกัดเพดานเงินกู้
หวัง จ้าวเหวิน โฆษกของแบงก์ ออฟ ไชน่ากล่าวว่า ทางธนาคารจะรักษาเป้าหมายการออกเงินกู้ประมาณ 10% ของวงเงินสินเชื่อล็อตใหม่ในปี 2552 ขณะเดียวกัน แบงก์ ออฟ ไชน่าอาจมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องในกรณีที่รัฐบาลเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการเงิน
บลูมเบิร์กรายงานว่า แบงก์ ออฟ ไชน่ามียอดปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังมากเป็นประวัติการณ์ถึง 9.02 แสนล้านหยวน (1.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งทำให้ตลาดสินเชื่อเฟื่องฟูและหนุนให้ราคาหุ้นและราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนได้ให้คำมั่นว่าจะผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความวิตกกังวลต่อการรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าที่จะป้องกันปัญหาหนี้เสีย
นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ เอสเอกล่าวว่า ยอดเงินกู้ล็อตใหม่ในจีนอาจพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11 ล้านล้านหยวนในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 แม้ว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ถึง 7.9% ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้
"เราจะยังคงเดินหน้าขยายการปล่อยสินเชื่อและดำเนินธุรกิจอื่นๆให้สอดคล้องตามนโยบายการเงินและการคลังของรัฐบาลเพื่อช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกแรง ดังนั้นทางธนาคารจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์สำคัญอย่างแน่นอน" โฆษกแบงก์ออฟ ไชน่ากล่าว
ทั้งนี้ ยอดเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ของจีน 17 แห่งในช่วง 6 เดือนแรกลดลง 4.3 หมื่นล้านหยวนมาอยู่ที่ระดับ 4.44 แสนล้านหยวน ขณะที่แหล่งเงินกู้ต่างชาติรายงานตัวเลขหนี้สินที่เพิ่มขึ้น 11% โดยในช่วงครึ่งปีแรก ธนาคารพาณิชย์ในจีนมียอดปล่อยเงินกู้รวมกันทั้งสิ้น 7.37 ล้านล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และเพิ่มมากขึ้น 47% จากที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ตลอดทั้งปี หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายข้อจำกัดด้านเงินกู้ไปเมื่อเดือนพ.ย.เพื่อสกัดกั้นภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ