ยูโรเปียน แอโรนอติค, ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ โค หรือ EADS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอร์บัสรายงานผลกำไรไตรมาส 2 ที่เพิ่มขึ้น 69% พร้อมทั้งคาดว่า ยอดส่งมอบเครื่องบินตลอดทั้งปีจะเท่ากับปีที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อย
บลูมเบิร์กรายงานแถลงการณ์ของ EADS ที่ระบุว่า กำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 656 ล้านยูโร (936 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 389 ล้านยูโรในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นช่วงที่รายได้ของบริษัทได้รับผลกระทบจากการส่งมอบเครื่องบิน A400M ที่ล่าช้า
ขณะเดียวกัน กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 76% แตะที่ 208 ล้านยูโรจากระดับ 18 ล้านยูโร ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 19% แตะระดับ 1.17 หมื่นล้านยูโร
"สถานการณ์ด้านการบินที่เลวร้ายประกอบการสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ยังเป็นปัญหาท้าทายต่อบริษัท แม้ว่าทิศทางความเคลื่อนไหวช่วงขาลงจะยุติหรือเกิดขึ้นน้อยลง แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงความมีเสถียรภาพ" EADS ระบุ
สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่า ยอดส่งออกเครื่องบินของแอร์บัส และโบอิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของโลกอาจลดลงหนักสุด 30% ในปีหน้า
ทั้งนี้ แอร์บัส ซึ่งทำยอดขายให้กับ EADS ถึง 2 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมดมียอดส่งมอบเครื่องบิน 138 ลำในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับที่ส่งมอบ 116 ลำในไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยการผลิตเครื่องบิน A400M ที่ล่าช้าทำให้บริษัทแบกรับค่าใช้จ่าย 715 ล้านยูโรในปี 2551 และ 191 ล้านยูโรในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม แอร์บัสได้ปรับลดกำหนดส่งมอบเครื่องบินซูเปอร์จัมโบ้ A380 ขนาด 525 ที่นั่ง โดยกล่าวว่าบริษัทจะส่งมอบเครื่องบินให้สายการบินต่างๆได้เพียง 14 ลำในปีนี้ จากกำหนดเดิมที่ 18 ลำ ขณะเดียวกันต้นทุนของเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้