เงินดอลลาร์สหรัฐส่อแววอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบเงินยูโร หลังตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังธนาคารกลางออสเตรเลียเผยว่าเศรษฐกิจประเทศอาจดีดตัวเร็วเกินคาด ในขณะที่เงินยูโรเดินหน้าแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบเงินเยน หลังจากที่ดอยช์ แบงค์ เอจี เผยกำไรไตรมาส 2 พุ่งเกินคาดถึง 68% เนื่องจากมีรายได้มากขึ้นจากการขายหุ้นและพันธบัตร
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้นักลงทุนยินดีเสี่ยงมากขึ้น" โทชิยะ ยามาอุจิ ผู้จัดการฝ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศบริษัท อุเอดะ ฮาร์โลว กล่าว "สภาพการณ์ดังกล่าวทำให้เงินดอลลาร์และเงินเยนอ่อนค่าลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลเงินในประเทศตลาดใหม่"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 1.4275 ดอลลาร์ต่อยูโร ณ เวลา 7.05 น.ตามเวลาลอนดอน จาก 1.4232 ดอลลาร์ต่อยูโรในตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ หลังแตะระดับ 1.4298 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐซื้อขายที่ระดับ 95.13 เยนต่อดอลลาร์ จาก 95.18 เยนต่อดอลลาร์
เงินยูโรแข็งค่าแตะ 135.80 เยนต่อยูโร จาก 135.48 เยนต่อยูโรเมื่อวานนี้ หลังจากที่แข็งค่าแตะ 136.10 เยนต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 1.0761 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI’s Asia Pacific ปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน ซึ่งถือว่าต่อเนื่องยาวนานสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2547 ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่านักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าเดิม โดยดัชนีดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้น 0.9% ในวันนี้