โนมูระ โฮลดิ้ง อิงค์ บริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นสามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาทำกำไรได้เป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากตลาดหุ้นที่สดใสช่วยกระตุ้นรายได้ในธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจให้ดีขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานแถลงการณ์ของโนมูระ ซึ่งเผยตัวเลขกำไรสุทธิที่ 1.14 หมื่นล้านเยน (121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. เมื่อเทียบกับที่ขาดทุน 7.66 หมื่นล้านเยนในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่กำไรจากการทำธุรกรรมเทรดดิ้งเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.21 แสนล้านเยนจาก 1.05 หมื่นล้านเยนในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.5 พันล้านเยน
อาซูมะ โอโนะ นักวิเคราะห์จากเครดิตสวิส กรุ๊ป เอจีกล่าวว่า "การที่โนมูระซื้อกิจการบางส่วนของเลห์แมนมีส่วนช่วยกระตุ้นธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ของโนมูระ ซึ่งเราเชื่อว่าโนมูระจะยังทำกำไรได้ต่อไป"
โดยในส่วนของค่าธรรมเนียมวาณิชธนกิจ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.97 หมื่นล้านเยนในช่วงไตรมาสแรก จากระดับ 1.34 หมื่นล้านเยนเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ค่านายหน้าการทำธุรกรรมดังกล่าวพุ่งแตะ 1.02 แสนล้านเยนจากระดับ 8.22 หมื่นล้านเยน
ขณะเดียวกันในวันนี้บริษัทรายงานถึงต้นทุนพนักงานในไตรมาสแรกที่ 1.381 แสนล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 8.79 หมื่นล้านเยนในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นายเคนอิจิ วาตานาเบ้ ซีอีโอของโนมูระยังได้แสดงความขอโทษนักลงทุนหลังจากที่เปิดเผยตัวเลขขาดทุนหนักเป็นประวัติการณ์ตลอดทั้งปีที่ 7.082 แสนล้านเยนเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้ว หุ้นของโนมูระในตลาดโตเกียวดิ่งลง 48%