ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ครั้งล่าสุดว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพในหลายภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะเขตนอร์ธอีสต์และมิดเวสต์ ซึ่งทำให้เฟดคาดว่าจะช่วยหนุนภาคเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวขึ้นในปีนี้
"แม้เศรษฐกิจยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง แต่ภาวะถดถอยเริ่มทุเลาลง และเศรษฐกิจเริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่หดตัวอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายเดือน โดยในหลายภูมิภาคของสหรัฐรวมถึงเขตนอร์ธอีสต์และมิดเวสต์นั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้นและเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้เราคาดหวังว่าโอกาสที่จะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ใกล้เข้ามาแล้ว" เฟดกล่าวในรายงาน
เฟดระบุว่า เศรษฐกิจใน 4 เขตฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้แก่ นิวยอร์ก คลีฟแลนด์ แคนซัสซิตี้ และซานฟรานซิสโก ขณะที่เศรษฐกิจในชิคาโกและเซนต์หลุยส์ ชะลอตัวในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจใน 5 เขต คือ บอสตัน ฟิลาเดลเฟีย ริชมอนด์ แอตแลนตา และดัลลัส ยังคงชะลอตัวลง และมีเพียงมินเนโพลิสเพียงเขตเดียวเท่านั้นที่เฟดระบุว่าเศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างหนัก
เฟดยังกล่าวด้วยว่า ภาคการผลิตในเขตริชมอนด์ ชิคาโก และแคนซัสซิตี้ ฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว ขณะที่การผลิตในเขตเซนต์หลุยและดัลลัสปรับตัวลดลงปานกลาง ส่วนการผลิตในเขตฟิลาเดลเฟียและมินเนโพลิสร่วงลงอย่างหนัก
ส่วนยอดขายรถยนต์ปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไปในแต่ละเขต ขณะที่ธุรกิจเดินทางและท่องเที่ยวชะลอตัวลงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เฟดระบุว่ายอดค้าปลีกหดตัวลงเกือบทุกเขต มีแต่เพียงเขตบอสตัน แคนซัสซิตี้ และซานฟรานซิสโกเท่านั้นที่ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นปานกลาง
เฟดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นผลมาจากภาคเอกชนเลย์ออฟพนักงานจำนวนมากและลดชั่วโมงทำงานของพนักงาน นอกจากนี้ ยังมีโรงงานหลายแห่งปิดกิจการชั่วคราวเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฟดคาดการณ์ว่า วงจรเลวร้ายทางเศรษฐกิจอาจทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นอีกและอาจทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อดูจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ซึ่งเฟดคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ในเร็วๆนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 12 ส.ค.นี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง