ผลการสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันที่จัดทำขึ้นโดยนิวยอร์กไทม์สและซีบีเอส นิวส์ พบว่า ชาวอเมริกันเป็นห่วงเรื่องแผนการปฏิรูประบบสาธารณสุขของรัฐบาลในด้านคุณภาพของการให้บริการ ค่าใช้จ่าย และผลกระทบที่มีต่อทางเลือกในการรักษาทางการแพทย์ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นของวอลล์ สตรีท เจอร์นัล/เอ็นบีซี พบว่า ชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้รับมืออยู่กับบริการด้านสาธารณสุข โดยประชาชนที่ไม่เห็นด้วยคิดเป็นสัดส่วน 46% ส่วนที่เห็นด้วยอยู่ที่ 41%
ทั้งนี้ โพลล์ทั้ง 2 รายการได้มีการจัดทำขึ้นในระหว่างที่สภาคองเกรสกำลังพยายามออกกฎหมายให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการขยายขอบเขตบริการด้านสาธารณสุขของประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้กับประชาชน 46 ล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพ โดยไม่เพิ่มยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล
บลูมเบิร์กรายงานว่า โพลล์ของไทม์สและซีบีเอสชี้ว่า มุมมองเกี่ยวกับวิธีการที่โอบามาจัดการเรื่องบริการสาธารณสุขนั้นยังผันผวนเช่นกัน ส่วนผลการสำรวจใหม่ชี้ว่า ประชาชน 46% เห็นด้วยกับวิธีการที่นายโอบามาดำเนินการอยู่ อีก 38% ไม่เห็นด้วย และผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนมิ.ย.พบว่า ประชาชนที่ตอบรับการสำรวจ 44% เห็นด้วยกับนายโอบามา และอีก 34% ไม่เห็นด้วย
โพลล์พบว่า ประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการปฏิรูประบบสาธารณสุขของรัฐบาล โดยประชาชน 69% มองว่า พวกเขาเป็นห่วงมากว่า ระบบสาธารณสุขที่จัดตั้งขึ้นใหม่จะทำให้บริการด้านสาธารณสุขย่ำแย่ลงไป ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ 63%
ทั้งนี้ ประชาชน 73% ระบุว่า พวกเขาเป็นห่วงว่า ระบบบริการสาธารณสุขที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นมาจะทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการด้านการทดสอบทางการแถย์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากโพลล์เดือนมิ.ย.ที่ 68%