แอนดี้ เซียะ อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า จีนจะลดปริมาณการปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่ลงถึงครึ่งหนึ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่ดีดตัวขึ้นเร็วเกินไป โดยดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของตลาดหุ้นจีนทะยานขึ้นแล้ว 82% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนได้ทุ่มเงินลงทุนเพราะเชื่อมั่นในยอดการปล่อยสินเชื่อที่สูงถึง 7.37 ล้านล้านหยวน หรือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นได้
ทั้งนี้ ดัชนีเคยดิ่งลงหนักสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อวันที่ 29 ก.ค. เพราะมีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลจะควบคุมปริมาณเงินลงทุนในการซื้อขายหุ้นในช่วงที่มีราคาแพงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551
บลูมเบิร์กรายงานว่า เซียะ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลกังวลว่า ภาวะฟองสบู่จะบายปลาบ ดังนั้นรัฐบาลจึงมีแนวโน้มที่จะลดการขยายตัวของการปล่อยสินเชื่อลงครึ่งหนึ่งในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นคงจะตกอยู่ใต้แรงกดดันต่อไปจนถึงประมาณช่วงเดือนต.ค.
ก่อนหน้านี้ สื่อจีนรายงานว่า หน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลด้านการธนาคารของจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า มีการวางแผนที่จะควบคุมกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ ตลอดจนการป้องกันไม่ให้มีการใช้เงินทุนไปในทางที่ไม่ถูกต้อง และยอดการปล่อยกู้ล็อตใหม่ในเดือนก.ค.ก็อาจจะอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านหยวน
เฉิง สีเหว่ย รองประธานคณะกรรมการสภาประชาชนแห่งชาติจีน กล่าวเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ได้ทะลักเข้าไปในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน
ไชน่า บิสิเนส นิวส์รายงานโดยอ้างนายเหว่ย เจียหนิง รองผู้อำนวยการของศูนย์การวิจัยและพัฒนาของจีน ว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีการคาดการณ์ว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ 1.16 ล้านล้านหยวนได้ถูกนำไปลงทุนในตลาดหุ้น