นักวิเคราะห์คาดยอดขายรถยนต์สหรัฐเดือนก.ค.พุ่งแกร่งสุดในรอบปี หลังรบ.ริเริ่มโครงการ CARS

ข่าวต่างประเทศ Friday July 31, 2009 14:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐประจำเดือนก.ค.จะพุ่งขึ้นแตะ 10.1 ล้านคันต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปี หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้โครงการ "Car Allowance Rebate System - CARS" (การนำรถยนต์เก่าแบรนด์ดังมาแลกรถยนต์คันใหม่) คิดเป็นมูลค่าโครงการ 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาซื้อรถยนต์มากขึ้น

วุฒิสมาชิกเดบบี สตาเบโนว์ เชื่อมั่นว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจคลี่คลายลง และโครงการ CARS ที่เปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้หันมาซื้อรถกันมากขึ้น

"หลังจากรัฐบาลผลักดันใช้โครงการ CARS เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้บริโภคก็ยื่นขอเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์มากขึ้น และขณะนี้เรากำลังเรียกร้องสภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้อนุมัติวงเงินเพิ่มเติม" วุฒิสมาชิกสตาเบโนว์กลาว

โจ บาร์เกอร์ นักวิเคราะห์จาก CSM Worldwide Inc กล่าวว่า "บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่จะรายงานยอดขายในวันจันทร์ที่ 3 ส.ค. แม้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมจะพุ่งขึ้นแตะ 10.1 ล้านคันต่อปี แต่คาดว่ายอดขายรถยนต์ของค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) จะหดตัว 24%, ไครสเลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี จะดิ่งลง 33% และยอดขายของฟอร์ด มอเตอร์ จะลดลง 6.1% นอกจากนี้ คาดว่ายอดขายของโตโยต้าในสหรัฐจะลดลง 20% ยอดขายของฮอนด้าจะลดลง 19% และยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ จะลดลง 29%"

บลูมเบิร์กรายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ทรุดตัวลง และทำให้ตัวเลขว่างงานในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ในเร็วๆนี้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ