ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และหันเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมากขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 1.29% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4252 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4071 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 1.25% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6708 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6502 ปอนด์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ดิ่งลง 0.92% เมื่อเทียบกับเยนที่ 94.640 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 95.520 เยน/ดอลลาร์ และดิ่งลง 1.75% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0683 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0873 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.18% ที่ระดับ 0.8350 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8253 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.49% แตะที่ 0.6615 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6518 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐหดตัวลงในอัตรา 1%ต่อปี น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 1.5% นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐ กำลังทุเลาลง
นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo Securities LLC กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ก็คือผลประกอบการเอกชน รวมถึงบริษัท แคทเทอพิลลาร์ และดาว เคมิคอลส์ บริษัทเหล่านี้มีภาวะขาดทุนที่ลดลง หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ"
สถาบัน GfK NOP เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนก.ค.ทรงตัวที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 ขณะที่มีข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการบ่งชี้ว่า อังกฤษกำลังหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีความเชื่อมั่นผุ้บริโภคของอังกฤษในเดือนก.ค.ทรงตัวเท่ากับเดือนก่อนที่ระดับติดลบ 25 จุด แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับติดลบ 39 จุดในปีที่แล้ว
รายงานดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นถึงสัญญาณบ่งชี้ที่ว่าภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจกำลังคลี่คลายลง หลังจากที่เมื่อวานนี้ เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้เปิดเผยว่า ราคาบ้านเฉลี่ยในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในระดับ 1.3% แตะที่ 158,871ปอนด์ (262,000 ดอลลาร์สหรัฐ) แต่ตกลง 6.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่ร่วงน้อยสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551